
ดวงจันทร์ พบน้ำมหาศาล จุดหวังส่งคนตั้งถิ่นอาศัย (มติชน) เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพีรายงานว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศของสหรัฐอเมริกา (นาซา) เปิดเผยว่า พบน้ำที่เย็นจนกลายเป็นน้ำแข็งในปริมาณที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนบนดวงจันทร์ นับเป็นข่าวที่แสดงให้เห็นถึงย่างก้าวสำคัญในการสำรวจอวกาศและยังเป็นการ จุดประกายความหวังในการที่มนุษย์เราอาจจะสามารถไปอยู่อาศัยตั้งถิ่นฐานบน ดวงจันทร์ได้ในอนาคต แถลงการณ์ของนาซาระบุว่า ข้อมูลในเบื้องต้นจากการทดลองบนดวงจันทร์ชี้ให้เห็นว่าปฏิบัติการของนาซา ประสบความสำเร็จในการค้นพบน้ำที่มีอยู่ในหลุมบนดวงจันทร์ การสำรวจนี้เป็นการพลิกหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ต่อความเข้าใจของเราในเรื่อง ดวงจันทร์ แอนโธนี โคลาพรีต นักวิทยาศาสตร์ประจำโครงการและหัวหน้าคณะสำรวจแอลครอสซึ่งเป็นโครงการมูลค่า 79 ล้านดอลลาร์ของนาซา เปิดเผยว่า "เราพบน้ำบนดวงจันทร์ และเราไม่ได้เจอเพียงแค่เล็กน้อย แต่พบในปริมาณมากพอสมควร" ข้อมูลดังกล่าวนี้ ได้จากการที่ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว นาซาได้ส่งยานอวกาศ 2 ลำพุ่งเข้าชนพื้นผิวของดวงจันทร์เพื่อสำรวจหาน้ำที่ฝังอยู่ใต้พื้นผิวดวง จันทร์ โดยยานลำหนึ่งได้พุ่งเข้าชนหลุมคาเบอุสใกล้กับขั้วโลกใต้ของดวงจันทร์ด้วย ความเร็วประมาณ 9,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากนั้น 4 นาที ต่อมายานอวกาศซึ่งติดตั้งกล้องบันทึกภาพได้ถูกส่งตามเข้ามาในบริเวณดัง กล่าวเพื่อบันทึกภาพของผลกระทบที่เกิดจากการพุ่งชนซึ่งทำให้มีเศษของสสาร ต่าง ๆ ฟุ้งกระจายขึ้นมาจากในหลุมดวงจันทร์ ซึ่งสสารเหล่านี้ไม่เคยสัมผัสถูกแสงอาทิตย์มาเป็นเวลาหลายพันล้านปี โคลาพรีตเปิดเผยว่า "ในหลุมที่ลึกราว 20-30 เมตรนี้ เราพบน้ำราว ๆ 2-12 แกลลอน ซึ่งนี่เป็นผลที่ได้ในเบื้องต้น มีหลักฐานหลาย ๆ อย่างที่แสดงให้เห็นว่ามีน้ำอยู่บนดวงจันทร์ทั้งในสสารเหมือนไอน้ำที่พุ่ง ออกมาและสสารลักษณะคล้ายของแข็งที่กระเด็นออกมาจากการพุ่งชนของยานแอลครอส เซนทอร์ แต่ยังต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลมากกว่านี้ถึงจะรู้ถึงปริมาตรที่แน่นอนและ การแพร่กระจายตัวของน้ำบนดวงจันทร์" ปีเตอร์ ชูลต์ซ ศาสตราจารย์ด้านธรณีวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยบราวน์ หนึ่งในทีมสำรวจของแอลครอสเปิดเผยว่า มีความหวังว่าจะพบน้ำปริมาณมากกว่านี้บนดวงจันทร์ โดยเขาบอกว่า "สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือเราใช้ยานอวกาศพุ่งชนเพียงแค่จุดเดียวเท่านั้น เหมือนกับการขุดเจาะน้ำมัน ที่หากเราพบที่จุดหนึ่งก็มีโอกาสมากที่เราจะพบที่จุดอื่นใกล้ ๆ กัน" ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งสมมติฐานว่าดวงจันทร์นั้นแห้งอย่างสิ้นเชิง ยกเว้นเพียงความเป็นไปได้ว่าจะมีน้ำแข็งอยู่ที่ก้นหลุมดวงจันทร์เท่านั้น ทำให้การค้นพบน้ำบนดวงจันทร์ครั้งนี้นับเป็นการก้าวกระโดครั้งใหญ่ในการสำรวจอวกาศ โคลาพรีตเปิดเผยว่า การวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดของโครงการแอลครอสยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควร เนื่องจากข้อมูลที่ได้มานั้นมีเยอะมาก เขากล่าวอีกว่านอกจากน้ำในหลุมคาเบอุส ยังมีจุดที่บ่งบอกว่าน่าจะมีสสารอย่างอื่นที่น่าสนใจอยู่ในบริเวณที่ไม่เคย ได้รับแสงอาทิตย์เลยบนดวงจันทร์ ซึ่งทำให้สสารเหล่านี้ถูกแช่แข็งมาเป็นเวลานานหลายพันล้านปี
ขอขอบคุณข้อมูลจากขอขอบคุณภาพประกอบจาก science.howstuffworks.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น